http://www.sugarzone.in.th


ข่าวเศรษฐกิจเกี่ยวกับอ้อยและน้ำตาล (เดือนพฤษภาคม 2566]

 

กลุ่มมิตรผล ยกทัพนวัตกรรมรักษ์โลก ร่วม THAIFEX-Anuga Asia 2023

กลุ่มมิตรผล ชูคอนเซ็ปต์ “Redefine The Future” พลิกโฉมดีไซน์แพ็กเกจผลิตภัณฑ์น้ำตาลรักษ์โลก พร้อมยกทัพผลิตภัณฑ์นวัตกรรมรักษ์โลก ร่วมงาน THAIFEX-Anuga Asia 2023

วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 กลุ่มมิตรผล ร่วมจัดแสดงบูทนิทรรศการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Redefine The Future” ในงาน THAIFEX-Anuga Asia 2023 โดยดีไซน์ผลิตภัณฑ์น้ำตาล เลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนอันดับ 2 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ที่จัดอันดับโดย S&P Global

พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

นายผรินทร์ อมาตยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการตลาด กลุ่มมิตรผลกล่าวว่า บูท THAIFEX ในปีนี้ เราต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์และแนวทางการพัฒนาของกลุ่มมิตรผลที่มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืน ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่ออนาคต จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “Redefine The Future” สะท้อนผ่านการพลิกโฉมแพ็กเกจผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายแบบถุงให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น

โดยนำอ้อยมาเป็นสัญลักษณ์ เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ รวมถึงการนำเสนอขวดน้ำตาลรักษ์โลกดีไซน์ใหม่ ที่เน้นความสะดวกในการใช้ พร้อมรูปลักษณ์ทรงเหลี่ยม เรียบง่าย มินิมอล สามารถนำมาใช้ซ้ำได้มากกว่าเป็นแค่ขวดน้ำตาลธรรมดาทั่วไป โดยบรรจุภัณฑ์น้ำตาลมิตรผลทั้ง 2 รูปแบบ ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน”

การเปลี่ยนโฉมแพ็กเกจผลิตภัณฑ์ของน้ำตาลมิตรผลดังกล่าว ช่วยยกระดับภาพลักษณ์และสื่อสารถึงผู้บริโภคให้มั่นใจในคุณภาพของน้ำตาลมิตรผล ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งมอบผลผลิตจากน้ำอ้อยธรรมชาติ 100% ไม่ใส่สารฟอกขาว พร้อมกรรมวิธีการผลิตที่ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิตน้ำตาลมาต่อยอดเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับอ้อยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

ในปีนี้ บูทของกลุ่มมิตรผลยังมีไฮไลต์พิเศษด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Freshy ไซรัปผสมน้ำและเนื้อผลไม้น้องใหม่มาตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ของไทย

พร้อมช่วยสร้างโอกาสให้แก่ร้านค้าต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่ม หรือเสริมความอร่อยรูปแบบใหม่ให้กับเมนูขนมหวานมากมายหลากหลายรูปแบบ มีให้เลือก 7 กลิ่น ได้แก่ ลิ้นจี่, สตรอว์เบอร์รี, บลูเลมอน, แอปเปิ้ล, มะม่วง, กีวี, และส้ม

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์เมนูปั่นและอิตาเลี่ยนโซดาสุดฮิตให้คู่ค้าและผู้บริโภคได้ลองชิมกว่า 1,500 แก้วต่อวัน

“กลุ่มมิตรผลยังยกขบวนผลิตภัณฑ์ในเครือที่คิดค้นและพัฒนาด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาจัดแสดง เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืนอีกมากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติ VAVA ที่มาจากแหล่งน้ำใต้ชั้นหินธรรมชาติแห่งผืนป่าเขาใหญ่ หนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติ (UNESCO World Heritage) ที่มีรสชาติดื่มง่าย การันตีด้วยรางวัล Superior Taste Award 3 ดาว จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลรสชาติน้ำยอดเยี่ยม ตัดสินโดยนักชิมน้ำจากทั่วโลก มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความทันสมัยเป็นเอกลักษณ์ จนคว้ารางวัลชนะเลิศด้านดีไซน์จากเวทีระดับโลก พร้อมเป็นน้ำดื่มแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่มุ่งสู่การเป็น Carbon Neutral

ผลิตภัณฑ์ FOS ภายใต้แบรนด์ Vallex สำหรับการใช้ในระดับอุตสาหกรรม และแบรนด์ Priva สำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกส์ ช่วยสร้างความสมดุลของระบบทางเดินอาหาร สามารถบริโภคหรือนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และอาหารสัตว์

ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ PlaneX เม็ดพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable Compound) และแบรนด์ CaneX บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (Compostable Food Packaging) เช่น ช้อน ส้อม มีด จากแป้งมันสำปะหลัง และหลอดจากชานอ้อย

ผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อสัตว์ (Plant-based Protein) ภายใต้แบรนด์ Meat Avatar ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายด้วยโปรตีนจากพืช เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกำลังเป็นเทรนด์อาหารที่น่าจับตามอง

“จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของกลุ่มมิตรผลที่จัดแสดงในงาน THAIFEX ครั้งนี้ คู่ค้าและผู้บริโภคของเราจะได้สัมผัสถึงภาพลักษณ์ ประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์และมุมมองใหม่ ๆ ของกลุ่มมิตรผล ความพร้อมจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ก้าวทันโลกอยู่เสมอ รวมถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนภาคเกษตรและอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนที่เราร่วมสร้างสรรค์ไปด้วยกัน” คุณผรินทร์ กล่าวปิดท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจเยี่ยมชม ลิ้มลองผลิตภัณฑ์ใหม่ และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมรักษ์โลกจากกลุ่มมิตรผล สามารถพบกันได้ที่มหกรรมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในภูมิภาคเอเชีย THAIFEX – Anuga Asia 2023 ณ บูทหมายเลข 2-U01 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23-26 พฤษภาคม 2566 (วันเจรจาธุรกิจ) และวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 (วันจำหน่ายปลีก)

จาก https://www.prachachat.net/economy วันที่ 24 พฤษภาคม 2566

 เทียบฟอร์ม 4 หุ้นกลุ่มน้ำตาล อานิสงส์ราคาน้ำตาลโลกพุ่งนิวไฮรอบ 11 ปี

หุ้นกลุ่มน้ำตาลได้รับอานิสงค์จากราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งขึ้น อยู่ที่ระดับ 27 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งถือว่าทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี มีอยู่ด้วยกัน 4 หลักทรัพย์ KTIS KSL BRR  และ KBS

ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งขึ้น อยู่ที่ระดับ 27 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งถือว่าทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปี สาเหตุเกิดจากฤดูหีบน้ำตาลในเอเชียเริ่มซบเซา สภาพอากาศที่ปรวนแปรลงในพื้นที่เพาะปลูกพืชให้น้ำตาล ส่งผลให้การผลิตในหลายประเทศปรับตัวลดลงอย่างมาก

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า ราคาน้ำตาลในตลาดโลกต้องถือว่าปรับตัวสูงขึ้น ฉะนั้นต้องบอกว่า เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มน้ำตาล แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด 100% เนื่องจากราคาน้ำตาลในประเทศบ้านเราไม่ได้สอดคล้องกับน้ำตาลตลาดโลกขนาดนั้น เพราะราคาน้ำตาลยังการควบคุมในประเทศ แต่การจำหน่ายในต่างประเทศอาจจะได้ผลดีจากการที่ราคาน้ำตาลโลกสูงขึ้น

ทั้งนี้หุ้นน้ำตาลในแต่ละปีจะมีเป็นช่วงเดือน พ.ย. ถึง เม.ย. ซึ่งกำไรของหุ้นในกลุ่มน้ำตาลที่กำลังจะประกาศของครึ่งปีแรกของปีนี้น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะได้ราคาน้ำตาลที่สูง และได้ในส่วนของปริมาณการเก็บเกี่ยวปีนี้ที่ปรับตัวขึ้นมาดีด้วย และเมื่อพ้นฤดูกาลไปแล้วส่วนใหญ่ผลประกอบการของหุ้นน้ำตาลก็จะเป็นโลว์ซีซั่น เนื่องจากน้ำตาลจะเป็นธุรกิจทำสัญญาขายตั้งแต่ต้นปี และหลังจากที่ทำสัญญาเสร็จแล้วที่เหลือไม่ได้มีผลที่จะเกิดขึ้นกับผลประกอบการเท่าไรในช่วงครึ่งปีหลัง

โดยผลผลิตอ้อยในปีนี้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 93.88 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 1.81 ล้านตัน หรือคิดเป็นประมาณ 2% ซึ่งคาดว่าผลผลิตน่าจะปรับได้สูงกว่านี้ระดับ 100 ล้านตัน ซึ่งอาจจะเกิดจากผลกระทบตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว รวมถึงภัยแล้งในปีนี้ทำให้ผลผลิตอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก 

สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาเก็งกำไรในเรื่องของผลประกอบการ อาจจะต้องติดตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก และถึงช่วงไตรมาส 2 พอเข้าสู่เดือน 5 จะเป็นช่วงที่เริ่มหมดฤดูกาล เพราะฉะนั้นจากนี้ไปการเก็งกำไรจะไม่ค่อยง่าย ควรระมัดระวังในเรื่องของการเก็งกำไร ยกเว้นแต่ว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกจะมีเหตุที่จะผลักดันปรับเพิ่มขึ้นได้

ขณะที่ วิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในภาพของราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังคงมีโมเมนตัมที่ปรับขึ้นไป โดยช่วงที่ปรับขึ้นสุดสุดจะเป็นวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 27 เซนต์ต่อปอนด์ ช่วงนี้ถือว่า ทำจุดสูงสุดในรอบ 11 ปี

โดยประเด็นหลักมาจากซัพพลาย ปริมาณการส่งออกของน้ำตาลอย่าง อินเดียที่มีปริมาณน้ำตาลลดลง ส่งผลให้ภาพรวมระยะสั้นราคาน้ำตาล รวมถึงปริมาณสินค้าออกสู่ตลาดน้อยลง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง

อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการกลุ่มน้ำตาลจะยังโดดเด่นยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าครึ่งปีหลัง เพราะการหีบน้ำตาลจะเป็นการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังส่วนใหญ่จะมีแต่ต้นทุน ส่วนใหญ่กำไรโดยมากแล้วครึ่งปีแรกดี เพราะครึ่งปีหลังบางโรงงาน บางบริษัทมักจะกลับมาในภาพของการขาดทุน เนื่องจากกำไรค่อนข้างจะเหวี่ยง

จากการสำรวจของกรุงเทพธุรกิจ หุ้นกลุ่มน้ำตาลที่คาดว่าจะได้รับอานิสงค์จากราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งขึ้น มีอยู่ด้วยกัน 4 หลักทรัพย์

1.บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS

มาร์เก็ตแคป 15,285.60 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท หทัยจรูญเอกโฮลดิ้ง จำกัด

ราคาปิด ณ วันที่ 3 พ.ค.66 ที่ 4.00 บาท

ราคาปิด ณ วันที่ 3 เม.ย.66 ที่ 4.42 บาท

ราคาสูงสุด/ ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ที่ 5.60 / 3.38 บาท

P/E - เท่า

P/BV  2.61 เท่า

2.บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL

มาร์เก็ตแคป 14,641.97 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เคเอสแอล ชูการ์ โฮลดิ้ง จำกัด

ราคาปิด ณ วันที่ 3 พ.ค.66 ที่ 3.32 บาท

ราคาปิด ณ วันที่ 3 เม.ย.66 ที่ 3.28 บาท

ราคาสูงสุด/ ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ที่ 4.16 / 3.06 บาท

P/E 9.59 เท่า

P/BV 0.69 เท่า

3.บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR

มาร์เก็ตแคป 5,481.67 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ทุนบุรีรัมย์ จำกัด

ราคาปิด ณ วันที่ 3 พ.ค.66 ที่ 6.80 บาท

ราคาปิด ณ วันที่ 3 เม.ย.66 ที่ 6.29 บาท

ราคาสูงสุด/ ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ที่ 10.50 / 5.00 บาท

P/E 7.14 เท่า

P/BV 2.08 เท่า

4.บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS

มาร์เก็ตแคป 3,930.00 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ครบุรี แคปิตอล จำกัด

ราคาปิด ณ วันที่ 3 พ.ค.66 ที่ 6.85 บาท

ราคาปิด ณ วันที่ 3 เม.ย.66 ที่ 5.70 บาท

ราคาสูงสุด/ ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ที่ 7.05 / 3.98 บาท

P/E 4.29 เท่า

P/BV 1.13 เท่า

จาก https://www.bangkokbiznews.com/ วันที่ 8 พฤษภาคม 2566